
Cover photo by tk
แฟลชกล้องที่เราใช้กันในปัจจุบันมีต้นกำเนิดจากปฏิกิริยาการเผาไหม้ที่คล้ายกับดินปืน ซึ่งอาจทำให้คุณประหลาดใจ ในช่วงก่อนที่สโตรโบสมัยใหม่จะถือกำเนิดขึ้น การถ่ายภาพต้องใช้ไฟเพื่อสร้างแสง ซึ่งเป็นการแสดงออกที่เรียกได้ว่า 'ระเบิด' อย่างแท้จริง
ในบทความนี้ เราจะสำรวจวิวัฒนาการของเทคโนโลยีแฟลช ตั้งแต่ผงแสงที่คล้ายดินปืน หลอดแฟลชที่จุดไฟด้วยไฟฟ้า ไปจนถึงสโตรโบอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภัยและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยมองจากมุมมองของประวัติศาสตร์ เคมี และการใช้งานจริง

Photo by techi☺︎
เสียงระเบิดเบื้องหลังศิลปะการมองเห็น
แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ที่เราใช้กันในปัจจุบันมีจุดเริ่มต้นจาก 'ผงแสง' ซึ่งใช้ปฏิกิริยาทางเคมีที่คล้ายกับดินปืน

Photo by calm…
ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 การถ่ายภาพใช้การเผาไหม้ของผงแมกนีเซียมหรือโซเดียมไนเตรตเพื่อสร้างแสงที่สว่างจ้า การถ่ายภาพในยุคนั้นเต็มไปด้วยเสียงระเบิด ควัน และเศษซากที่กระจายไปทั่ว ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็น 'ศิลปะแห่งดินปืน'
หลอดแฟลชที่สร้างแสงสว่างเพียงครั้งเดียว
ในช่วงทศวรรษที่ 1930 'หลอดแฟลช (Flash Bulb)' ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยใช้พลังงานไฟฟ้าในการเผาไหม้โลหะที่บรรจุอยู่ภายใน ช่วยลดความยุ่งยากในการจุดไฟด้วยมือ หลอดแฟลชรุ่น M และ FP ถูกนำไปใช้ในการถ่ายภาพกลางคืนและใต้น้ำ โดยบางรุ่นมีความสว่างสูงถึงไกด์นัมเบอร์ 200
แม้ว่าจะเป็นอุปกรณ์ใช้ครั้งเดียวและมีค่าใช้จ่ายสูง แต่หลอดแฟลชก็เป็นแหล่งกำเนิดแสงที่เชื่อถือได้และสนับสนุนวัฒนธรรมการถ่ายภาพในยุคโชวะ
วิวัฒนาการของแสงและความทรงจำที่สูญหาย
ในที่สุด สโตรโบอิเล็กทรอนิกส์ก็ถือกำเนิดขึ้น และในช่วงทศวรรษที่ 1970 สโตรโบที่ติดตั้งในตัวกล้องก็กลายเป็นที่นิยม เทคโนโลยีที่สามารถใช้งานซ้ำได้ ปลอดภัย และน้ำหนักเบานี้ได้เปลี่ยนแปลงประสบการณ์การถ่ายภาพทั้งสำหรับมืออาชีพและมือสมัครเล่น

Photo by まおち
ในขณะเดียวกัน 'แสงที่สูญหาย' อย่างผงแสงและหลอดแฟลชยังคงทำให้เรานึกถึงความตื่นเต้นของช่างภาพและพลังงานที่เกิดขึ้นในสถานที่ถ่ายภาพ บางทีเศษซากของดินปืนอาจยังคงหลงเหลืออยู่ในความทรงจำของเรา



