
Cover photo by uhe
ก้อนเมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าที่เรามองขึ้นไปในทุกๆ วัน อาจเป็นผลงานศิลปะที่ใกล้ตัวที่สุด โดยไม่ต้องใช้เทคนิคหรืออุปกรณ์ใดๆ การถ่ายภาพก้อนเมฆที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศและช่วงเวลา เป็นการฝึกฝนมุมมองและความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยม แม้แต่ผู้เริ่มต้นก็สามารถเริ่มต้นได้ด้วยสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว และสำหรับผู้มีประสบการณ์ การถ่ายภาพเมฆยังเป็นหัวข้อที่ช่วยพัฒนาการค้นหาแสงและองค์ประกอบได้อย่างลึกซึ้ง

Photo by eriko
เทคนิคการจัดองค์ประกอบเมฆที่เล่าเรื่องราว
ความสนุกของการถ่ายภาพเมฆคือการจินตนาการว่า "มันดูเหมือนอะไร" ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างของสัตว์ คลื่นยักษ์ หรือปราสาทบนฟ้า แม้จะไม่ได้กำหนดวัตถุที่ชัดเจน แต่รูปร่างและการซ้อนทับของเมฆสามารถบอกเล่าเรื่องราวได้

Photo by yu
การถ่ายภาพแบบมุมกว้างเพื่อให้ได้ภาพที่ดูยิ่งใหญ่ หรือการใช้เลนส์ซูมเพื่อจับภาพบางส่วนของเมฆ ก็สามารถเพิ่มความสนุกและสร้างเรื่องราวให้กับภาพได้
ช่วงเวลามหัศจรรย์ที่เมฆเป็นพระเอก
ช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับการถ่ายภาพเมฆคือช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้นหรือช่วงเย็นที่เรียกว่า “Magic Hour” ในช่วงเวลานี้ แสงจะนุ่มนวล และเมฆจะถูกย้อมด้วยสีส้มและม่วง สร้างทิวทัศน์ที่ดูเหมือนฝัน

Photo by maiko777
แม้แต่สมาร์ทโฟนก็สามารถใช้ฟีเจอร์ HDR หรือการปรับแสงเพื่อเน้นสีสันที่โดดเด่นได้ ลองคำนึงถึงตำแหน่งของดวงอาทิตย์และเงาที่เกิดขึ้นเพื่อสร้างภาพที่มีมิติ
ไอเดียการถ่ายภาพเมฆที่ไม่ใช่แค่การมองขึ้นไป
การถ่ายภาพเมฆไม่ได้จำกัดแค่การมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ลองถ่ายภาพเมฆที่สะท้อนในแอ่งน้ำหรือหน้าต่างอาคาร คุณจะได้ภาพที่ดูเหนือจริงและน่าหลงใหล

Photo by tk
นอกจากนี้ การรวมวัตถุบนพื้นดินเข้ากับเมฆสามารถเพิ่มเรื่องราวและทำให้ภาพวิวทิวทัศน์สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ลองนอนราบกับพื้นหรือใช้โดรนเพื่อถ่ายภาพจากมุมสูง ความอิสระในมุมมองจะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของคุณ



