
cover image by Rui
คุณเคยถ่ายรูปเพื่อใช้แทนบันทึกหรือไม่?
การถ่ายรูปด้วยสมาร์ทโฟนอย่างรวดเร็วเพื่อใช้เป็นบันทึกสำหรับย้อนดูในภายหลัง หรือการกดชัตเตอร์เพื่อเก็บความทรงจำให้เป็นรูปเป็นร่าง การ 'ถ่าย' กลายเป็นธรรมชาติของการบันทึกในชีวิตประจำวัน

Image by DragonOne
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยทางจิตวิทยาชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมที่ดูเหมือนธรรมดานี้อาจส่งผลเสียต่อความทรงจำของเรา ปรากฏการณ์ที่ถูกนำเสนอคือ 'ผลกระทบการถ่ายภาพลดทอน'
การถ่ายภาพช่วยหรือขัดขวางความจำ?
การถ่ายภาพถูกใช้เป็นวิธีการบันทึกช่วงเวลาอย่างกว้างขวาง แต่การศึกษาของนักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแฟร์ฟิลด์ ลินดา เฮนเคล พบว่าผู้เยี่ยมชมที่ถ่ายภาพสิ่งของในพิพิธภัณฑ์จำรายละเอียดของสิ่งของได้น้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ถ่ายภาพ

Image by 住吉音香
ลินดา เฮนเคล กล่าวว่าผู้คนมักหยิบกล้องออกมาโดยไม่คิดและกดชัตเตอร์จนพลาดสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า การถ่ายภาพอาจขัดขวางกระบวนการทำความเข้าใจและเก็บความทรงจำอย่างลึกซึ้ง
ผลกระทบการถ่ายภาพลดทอนคืออะไร
ตามที่เฮนเคลกล่าว 'ผลกระทบการถ่ายภาพลดทอน' เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการพึ่งพาเทคโนโลยี การพึ่งพานี้ทำให้เรามีความจำเป็นในการมีส่วนร่วมกับสิ่งต่างๆ น้อยลง การมีส่วนร่วมน้อยลงทำให้คุณภาพของประสบการณ์ลดลงและทำให้จำได้ยากขึ้น
เพื่อเก็บความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือน
เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่จำได้ ควรจำกัดความถี่ในการถ่ายภาพและมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เฮนเคลเปรียบเทียบ 'ตาของใจ' กับ 'ตาของกล้อง' โดยกล่าวว่าภาพถ่ายช่วยความจำ แต่ถ่ายบ่อยเกินไปจะลดโอกาสในการเพลิดเพลินอย่างเต็มที่และแม้กระทั่งไม่มีวัสดุให้ย้อนดู

Image by yNAK
ถ้าเช่นนั้น เราจะรักษาสมดุลที่เหมาะสมในการถ่ายภาพได้อย่างไร?
ในสถานที่ท่องเที่ยว ให้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าเพื่อสัมผัสบรรยากาศและถ่ายภาพทิวทัศน์ที่ต้องการในภายหลัง การรวมกันของบริบทที่สร้างจากประสาทสัมผัสและภาพถ่ายจะสร้างความทรงจำที่ยั่งยืน
การหาสมดุลที่ดีระหว่างการถ่ายภาพและประสบการณ์จริงอาจเป็นกุญแจสำคัญในการเก็บความทรงจำที่มีค่า ลองทบทวนพฤติกรรมการถ่ายภาพในชีวิตประจำวันและเก็บความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนดูสิ